วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2556

12 . ระเบียบวิธีการวิจัย(Research Methodology)


12 . ระเบียบวิธีการวิจัย(Research Methodology)
     สุทิติ ขัตติยะ,วิไลลักษณ์ สุวจิตตานนท์(2553:29) อ้างถึง Black & Champion.1976 ว่า เป็นคำที่มีความหมายครอบคลุมทั้งหมดของกระบวนการดำเนินการวิจัย นับตั้งแต่ปัญหาการวิจัย รูปแบบการวิจัย วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล การตีความและสรุปการวิจัย ซึ่งรูปแบบการวิจัยเกี่ยวข้องกับการออกแบบการวิจัยเป็นแกนประสานปัญหาการวิจัยกับวิธีเก็บรวบรวมข้อมูล
     http://webcache.googleusercontent.com/searchq=cache:6wXp4W5yBAwJ:graduate.east.spu.ac.th/KM/AcademicWriting(F)/unit2/U2_7/01.html+&cd=4&hl=th&ct=clnk&gl=th ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า ระเบียบ วิธีวิจัย กล่าวถึงขั้นตอนและกระบวนการวิจัย ในขั้นตอนนี้ควรจะแสดงถึงโครงสร้างของความรู้ให้ผู้อ่านได้ทราบถึงเงื่อนไข หรือวิธีการที่การทดลองหรือการศึกษาวิจัยนั้นได้กระทำขึ้น ควรรวมถึง ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ผู้อ่านประเมินความน่าเชื่อถือของระเบียบวิธี วิจัย และเป็นการย้ำว่าสามารถทดลองหรือศึกษาซ้ำได้โดยใช้ระเบียบวิธีเดียวกัน หากบางประเด็นมีรายละเอียดมากให้ใส่ไว้ในภาคผนวก
ระเบียบวิธีวิจัยต้องมีข้อมูลต่อไปนี้ 
                การออกแบบการวิจัย  Overview of the study (design)
                ประชากร/กลุ่มตัวอย่าง/กลุ่มผู้ให้ข้อมูล Population/sample
                สถานที่ Location
                ข้อจำกัด Restrictions/Limiting conditions
                การเลือกกลุ่มตัวอย่าง/ กลุ่มผู้ให้ข้อมูล Sampling technique
                ขั้นตอนการดำเนินการวิจัยหรือศึกษา Procedures/Methods/Methodology
                วัตถุที่ใช้ (เช่น ในการทดลอง) Materials เครื่องมือวิจัย instruments
                ตัวแปร Variables
                สถิติที่ใช้ Statistical treatment
                การวิเคราะห์ข้อมูล data analysis
       http://blog.eduzones.com ได้รวบรวมและกล่าวไว้ว่า รูปแบบการวิจัยเป็น การให้รายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนในการดำเนินการวิจัยว่าแต่ละขั้นตอนจำทำ อย่างไร โดยทั่วไปเป็นการให้รายละเอียดในเรื่องต่อไปนี้ คือ
          1.  วิธีวิจัย จะเลือกใช้วิธีวิจัยแบบใด เช่น จะใช้การวิจัยเอกสาร การวิจัยแบบทดลอง การวิจัยเชิงสำรวจ การวิจัยเชิงคุณภาพ หรือจะใช้หลายๆ วิธีรวมกัน ซึ่งก็ต้องระบุให้ชัดเจนว่าจะใช้วิธีอะไรบ้าง
          2.  แหล่งข้อมูล จะเก็บข้อมูลจากแหล่งใดบ้าง เช่น จะเก็บข้อมูลทุติยภูมิ จากทะเบียนราษฎร์ สมุดสถิติรายปี สำมะโนประชากรและเคหะ ฯลฯ หรือจะเป็นข้อมูลปฐมภูมิ จากการสำรวจ การสนทนากลุ่ม การสังเกต การสัมภาษณ์ระดับลึก ฯลฯ เป็นต้น
         3.  ประชากรที่จะศึกษา ระบุให้ชัดเจนว่าใครคือประชากรที่ต้องการศึกษา และกำหนดคุณลักษณะของประชากรที่จะศึกษาให้ชัดเจน เช่น เพศ อายุ สถานภาพสมรส ศาสนา เขตที่อยู่อาศัย บางครั้งประชากรที่ต้องการศึกษาอาจไม่ใช่ปัจเจกบุคคลก็ได้ เช่น อาจเป็นครัวเรือน หมู่บ้าน อำเภอ จังหวัด ฯลฯ ก็ได้
         4.  วิธีการสุ่มตัวอย่าง ควรอธิบายว่าจะใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบใด ขนาดตัวอย่างมีจำนวนเท่าใด จะเก็บข้อมูลจากที่ไหน และจะเข้าถึงกลุ่มตัวอย่างได้อย่างไร
         5.  วิธีการเก็บข้อมูล ระบุว่าจะใช้วิธีการเก็บข้อมูลอย่างไร มีการใช้เครื่องมือและทดสอบเครื่องมืออย่างไร เช่น จะใช้วิธีการส่งแบบสอบถามทางไปรษณีย์ การสัมภาษณ์แบบมีแบบสอบถาม การสังเกต หรือการสนทนากลุ่ม เป็นต้น
        6.  การประมวลผลข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูล ระบุการประมวลผลข้อมูลจะทำอย่างไร จะใช้เครื่องมืออะไรในการประมวลผลข้อมูล และในการวิเคราะห์ข้อมูลหรือการทดสอบสมมติฐานจะทำอย่างไร จะใช้สถิติอะไรบ้างในการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้สามารถตอบคำถามของการวิจัยที่ต้องการได้
 สรุป
    ระเบียบวิธีการวิจัย คือ วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล การตีความและสรุปการวิจัย ซึ่งรูปแบบการวิจัยเกี่ยวข้องกับการออกแบบการวิจัยเป็นแกนประสานปัญหาการวิจัยกับวิธีเก็บรวบรวมข้อมูล ระเบียบวิธีวิจัยต้องมีข้อมูลต่อไปนี้  การออกแบบการวิจัย 
ประชากร/กลุ่มตัวอย่าง/กลุ่มผู้ให้ข้อมูล  สถานที่   ข้อจำกัด  การเลือกกลุ่มตัวอย่าง/ กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ขั้นตอนการดำเนินการวิจัยหรือศึกษา วัตถุที่ใช้ (เช่น ในการทดลอง) Materials เครื่องมือวิจัย ตัวแปร  

สถิติที่ใช้  การวิเคราะห์ข้อมูล
 อ้างอิง
http://webcache.googleusercontent.com/searchq=cache:6wXp4W5yBAwJ:graduate.east.spu.ac.th/KM/AcademicWriting(F)/unit2/U2_7/01.html+&cd=4&hl=th&ct=clnk&gl=th.เข้าถึงเมื่อ7มกราคม 2556 
 http://blog.eduzones.com .เข้าถึงเมื่อ 7 มกราคม 2556 
สุทิติ ขัตติยะ.(2553).แบบแผนการวิจัยและสถิติ.หจก.เปเปอร์เฮาส์:กรุงเทพฯ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น